สำหรับการเลือก ซื้อบ้าน หรือ ซื้อบ้านมือสอง ดีๆซักหลังต้องคิดแล้วคิดอีก ด้วยหลายๆ ปัจจัย แต่มีปัจจัยสำคัญเลยที่จะช่วยให้เราได้บ้านสมดังที่หวังอย่างแน่นอน นั่นคือ มาตราการต่างๆ ที่ได้เปิดโอกาสให้กับบุคคลทุกคนได้มีบ้าน จึงออกมาตราการออกมาด้วยกันหลายหลากมาก และก็ถือว่ามันสามารถเติมเต็มความฝันสำหรับคนอยากมีบ้านได้ดีทีเดียว
หลังจากที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลต่อราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นต้นทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ซึ่งมีโอกาสที่ผู้ประกอบการจะปรับราคาเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อ ที่สูงขึ้น ยังเป็นปัจจัยเร่งการตัดสินใจในการซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น ไม่เพียงตลาดบ้านใหม่เท่านั้น แต่รวมถึงบ้านมือสองด้วย ราคาเลยพุ่งกระฉุดกันแบบหยุดไม่อยู่เลยทีเดียว
ซึ่งเราบอกก่อนเลยว่า การซื้อบ้านมือสอง ในปี 2565 ถือว่าเป็นปีทองสุดๆ เราได้รวบรวมมาตรการต่างๆ ที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือและลดภาระของคนอยากมีบ้าน 3 มาตรการช่วยเหลือที่น่าสนใจ ดังนี้
- ผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว
- มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน – จดจำนอง
- ดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยใช้ลดหย่อนภาษี
สำหรับมาตราการแรกเลยนั่นก็คือ ผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว กู้ซื้อบ้านได้ 100 %
ตามสถานการณ์โควิด -19 ที่แพร่ระบาดต่อเนื่องมายาวนานหลายปี ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจอย่างรุนแรง รวมถึงภาคอสังหาฯ เองก็ซบเซาลงไปเป็นอันมาก ซึ่งพอคลี่คลายมาบ้างแล้วก็ต้องหาทางกระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ตัดสินใจประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV หรือ หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออันเกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว โดยข้อดีของการผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
ซึ่งใครที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์สัญญากู้หลังที่ 2 รวมถึงบ้านที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปสามารถกู้ได้เต็ม 100% ของราคาหลักประกัน เรียกได้ว่าใครที่วางแผนจะซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสองสัญญากู้หลังที่ 2 หรือบ้านเกิน 10 ล้านขึ้นไป เราจะสามารถกู้เต็ม 100% โดยไม่ต้องวางดาวน์ แต่สำหรับการยื่นขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสองก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนและเงื่อนไขของแต่ละธนาคารเองด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.reic.or.th/Knowledge/SuggestionHomeDetail/98
https://thinkofliving.com
มาตราการที่สอง มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน – จดจำนอง
ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอน และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง บ้าน คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จาก 2% สำหรับค่าธรรมเนียมโอนเหลือ 0.01% และ 1% สำหรับค่าธรรมเนียมการจดจำนอง เหลือ 0.01% เช่นกัน ไปจนถึงสิ้นปี 2565
มาตรการ ลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ออกมาเพื่อช่วยลดภาระรายจ่ายผู้ซื้อบ้าน จากเดิมจะต้องเตรียมค่าธรรมเนียมให้กรมที่ดิน ดังนี้
1.ลดค่าธรรมเนียมการโอน อัตราปกติ 2.00% เหลือ 0.01%
มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนจากร้อยละ 2 ลงเหลือร้อยละ 0.01 ซึ่งค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อผู้ขายจะตกลงกันว่าใครจะต้องจ่าย หรือแบ่งจ่ายกันเท่าไร ตัวอย่างการคำนวณให้เห็นภาพก็อย่างเช่น ถ้าโอนบ้านราคา 2 ล้านบาท จากปกติต้องจ่ายค่าโอน 4 หมื่นบาท ก็จะเหลือจ่ายแค่ 400 บาทเท่านั้น
- ลดค่าธรรมเนียมการจำนอง อัตราปกติ 1.00 % เหลือ 0.01% *แต่จะต้องเป็นโครงการใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทอสังหา เท่านั้น โครงการมือสอง ไม่เข้าเงื่อนไข*
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.thansettakij.com/property/510568
อีกมารตราการ การช่วยเหลือที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยใช้ลดหย่อนภาษี
“ขายบ้านเก่า ที่มีชื่อในทะเบียนบ้านอย่างน้อย 1 ปี เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ ภายใน 1 ปี สามารถประหยัดภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย”
เมื่อวันหนึ่งเรามีครอบครัวใหญ่ขึ้น ต้องการเปลี่ยนที่อยู่อาศัย หรือเจอบ้านหลังใหม่ที่ถูกใจกว่าบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่ อาจเกิดความต้องการอยากขายบ้านหลังเก่า เพื่อไปซื้อบ้านหลังใหม่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้นั้น ผู้ที่ขายบ้านสามารถประหยัดภาษีได้
ใครที่กู้ซื้อบ้านกับธนาคาร แน่นอนว่าดอกเบี้ยบ้านจะช่วยลดภาระภาษีให้เราได้ โดยกรมสรรพากรกำหนดให้เรานำดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยมาลดหย่อนรายได้ ตามจำนวนเงินที่ได้จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/ขายบ้านเก่า-ซื้อบ้านใหม่-ประหยัดภาษี-8350
และยังมีรายละเอียดการช่วยเหลืออีกหลายประการที่อาจจะยังนำเสนอได้ไม่หมด หรือใครที่ยังไม่มีช่องทางในการติดต่อหาข้อมูลก็สามารถสอบถามเราได้ตลอด ปรึกษาเราได้เลยค่ะ โทร 086-525-2000 ID Line : @sbuyhome